เครื่องนุ่งห่มในประเทศไทยเป็นอุตสาหรรมเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยประเทศไทยถือ ว่าเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ครบวงจร ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้าที่เริ่มต้นจากกระบวนการผลิตสิ่งทอไป จนถึงอุตสาหกรรมปลายน้า นั่นคือ การผลิตเครื่องนุ่งห่ม ในปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยมีแนวโน้มถดถอย และชะลอตัว และหากวิเคราะห์สภาพการณ์การผลิตและการส่งออกไปจนถึงปี 2554 นายสุกิจ คงปิ ยาจารย์ นายก สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิ ดเผยว่า อัตราการเติบโตจะลดลงจากปี นี้ประมาณร้อยละ 10 โดยมูลค่าการ ส่งออกจะเหลือประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 นี้ตัวเลขการส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยในช่วง 9 เดือน แรก มียอด 2,377.35 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราเติบโตร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ที่ผ่านมา โดยตลาด สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนร้อยละ 39 รองลงมา คือกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ร้อยละ 32 ญี่ปุ่ น ร้อยละ 8 อาเซียน 9 ประเทศ ร้อยละ 3.5 ส่วนที่เหลือเป็นตลาดอื่น ปี นี้ที่คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะอยู่ที่ระดับ 3,200 - 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย ปัจจัยเสี่ยงหลักยังคงเป็นค่าเงินบาทแข็งค่า ขึ้นทำให้มีปัญหาด้านการแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม บังกลาเทศ อินโดนีเซีย กัมพูชา ศรีลังกา และอินเดีย ขณะเดียวกัน ต้นทุนวัตถุดิบจากฝ้ ายในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากการที่ผลผลิตในตลาดโลกลดลง สำหรับตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) เป็นตลาดที่มียอด คำสั่งซื้อลดลง ขณะที่อาเซียนและจีน มี คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจีนจะกลายมาเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ใน อนาคต และลดบทบาทในฐานะผู้ส่งออกลง เพื่อขายสินค้าในประเทศมากขึ้น เพราะมีกำลังซื้อสูงมากอยู่แล้ว ส่วน ตลาดญี่ปุ่ นผู้ประกอบการไม่สนใจ เนื่องจากญี่ปุ่ นต้องการสินค้าราคาถูก และสนใจตลาดสินค้าแฟชั่นมากกว่าทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในปี 2552 มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 73 บริษัท เป็นสมาชิกสามัญจำนวน 69 ราย และสมาชิกสมทบ 4 ราย
